Ethereum

Ethereum คือ

Ethereum เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนที่มีต้นกำเนิดมาจาก Bitcoin ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ไม่เพียงแค่ฟังก์ชันทางการเงิน เช่น ใช้เป็นสกุลเงิน แต่ยังใช้เป็นเครือข่ายสำหรับข้อเสนอและการอนุมัติสัญญาต่าง ๆ ภายในบล็อกเชนอีกด้วย ถ้าจะให้พูดอีกอย่างหนึ่งคือ บล็อกเชนของเครือข่าย Ethereum ไม่เพียงแต่บันทึกการชำระเงินตามข้อตกลงระหว่างผู้ใช้เท่านั้น แต่ยังมีฟังก์ชัน SNS, สัญญา และฟังก์ชันต่างๆ ของแอปพลิเคชัน รวมถึงการลงคะแนน ซึ่งถูกนำมาใช้งานอยู่ในปัจจุบันภายใต้ลักษณะเฉพาะของบล็อกเชน แอปพลิเคชันที่ให้บริการตามคุณสมบัติหลัก 5 ประการของบล็อกเชน ได้แก่ การกระจายอำนาจ การไม่เปิดเผยตัวตน ความโปร่งใส ความรวดเร็ว และการย้อนกลับไม่ได้ คุณสมบัติเหล่านี้ถูกนิยามให้เป็น dApp (แอปพลิเคชันแบบไม่รวมศูนย์)

การใช้งานหลักของ Ethereum

มีตัวอย่างมากมายของการใช้งานของเครือข่ายบล็อกเชนโดยทั่วไปของ Ethereum แต่การใช้งานที่เป็นที่รู้จักในที่สาธารณะคือการใช้งานในลักษณะของโทเค็นที่ทดแทนกันไม่ได้ (NFT) บริษัทเกมบางแห่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดการความเป็นเจ้าของทรัพย์สินทางอินเทอร์เน็ตที่มีอยู่ เช่น ดาบสังหารของ Lineage และการ์ดของ Son Heung-Min บน FIFA Online ดังนั้น หากบริษัทเกมปิดกิจการหรือเกิดข้อผิดพลาดในฐานข้อมูล เจ้าของเดิมจะสูญเสียความเป็นเจ้าของในสิ่งเหล่านั้นอย่างถาวร เครือข่าย Ethereum มักใช้เพื่อบันทึกทรัพย์สินบนอินเทอร์เน็ตของเจ้าของสินทรัพย์บนเครือข่ายบล็อกเชนแบบไม่รวมศูนย์ โปร่งใส และย้อนกลับไม่ได้

ตั้งแต่ปี 2021 Coin-Labs.com ได้ร่วมมือกับ Bybit และเป็นสัญญาโปรแกรมพันธมิตรที่มีอันดับสูงสุดเพียงไม่กี่สัญญา ดังนั้น หากคุณสมัคร Bybit ผ่านปุ่มด้านบน คุณจะได้รับสิทธิประโยชน์ค่าธรรมเนียมส่วนลดสูงสุดและการเข้าร่วมในกิจกรรมโบนัสที่เสนอสูงถึง $500

เจ้าของ Ethereum

Ethereum ได้รับการพัฒนาโดย ไวทาลิก บิวเทริน ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2558 ในปี พ.ศ. 2556 ไวทาลิก บิวเทริน ในวัย 19 ปีได้เขียนรายงานเกี่ยวกับการพัฒนา Ethereum สู่ชุมชนอินเทอร์เน็ต การระดมทุนเพื่อการพัฒนาผ่าน ICO และเปิดตัวให้บริการ Ethereum ในปี พ.ศ. 2558 ไวทาลิก บิวเทริน เป็นหนึ่งในผู้มีอิทธิพลที่สำคัญที่สุดในด้านสกุลเงินคริปโตและบล็อกเชนทั่วโลก และถือเป็นบุคคลที่มีส่วนร่วมอย่างมากในการขยายตัวของตลาดสกุลเงินคริปโตซึ่งได้เติบโตมาได้จนถึงจุดนี้

ปัจจุบัน ไวทาลิก บิวเทริน อาศัยอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ โดยที่ Ethereum Foundation ก็มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์เช่นกัน คำพูดของ ไวทาลิก บิวเทริน เกี่ยวกับสกุลเงินคริปโต ได้หยิบยกประเด็นขึ้นมาทุกปี เขากล่าวว่าสถานะในอุดมคติของ Ethereum คือการมีความเป็นอิสระที่ไม่ถูกแทรกแซงจากใครเลย รวมถึงประเทศ กลุ่มการเมือง และบริษัทผ่านการกระจายอำนาจ นอกจากนี้ เขายังกล่าวว่าสกุลเงินคริปโตต่างๆ ได้กลายเป็นประเด็นของการเก็งกำไร ซึ่งเขาวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

ไวทาลิก บิวเทริน กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ CNN เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 ว่าสกุลเงินคริปโตอาจอยู่ในภาวะฟองสบู่ และเป็นการยากที่จะประเมินว่าฟองสบู่จะแตกเมื่อใด นอกจากนี้เขายังระบุอีกว่า ในการประเมินสถานะปัจจุบันของสกุลเงินดิจิทัล “เรากำลังพยายามเข้าสู่โลกกระแสหลัก และมันไม่ใช่แค่ของเล่นอีกต่อไป ซึ่งต่างจากปี พ.ศ. 2560”

Ethereum 2.0 คืออะไร

Ethereum 2.0 (Eth2 หรือ–Serenity) เป็นการอัปเดตแบบหลายขั้นตอนสำหรับบล็อกเชนของ Ethereum มันมีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงความสามารถในการขยายขนาดและความปลอดภัยของเครือข่ายของ Ethereum โดยทำการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างกับโครงสร้างพื้นฐานของเครือข่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการย้ายจากกลไกฉันทามติแบบ proof-of-work (PoW) ไปสู่ proof-of-stake (PoS)

สิ่งสำคัญคือต้องเน้นว่า Ethereum 2.0 ไม่ใช่คำที่ถูกต้อง ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2565 Ethereum Foundation กล่าวว่าจะหยุดเรียกการอัปเดตนี้ว่า Ethereum 2.0 การรีแบรนด์นี้มีจุดประสงค์เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงการอัปเกรดของเครือข่าย ไม่ใช่เครือข่ายใหม่

ดังนั้น Eth1 จึงเป็นชั้นดำเนินการที่มีสัญญาอัจฉริยะและกฎเครือข่ายอยู่ ในขณะที่ Eth2 ถูกกล่าวถึงว่าเป็น –ชั้นฉันทามติ มันจะตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ที่เข้าร่วมในเครือข่ายปฏิบัติตามกฎของมัน อย่างไรก็ตาม ตัวชื่อ Ethereum 2.0 ได้โด่งดังขึ้นมา

Ethereum ทำงานอย่างไร

Ethereum ทำงานเป็นเครือข่ายบล็อกเชนแบบคลาสสิกเหมือนกับ Bitcoin พร้อมการปรับเปลี่ยนบางอย่าง เครือข่าย Ethereum ประมวลผลธุรกรรมหลายล้านรายการที่ถูกรวมกันเป็นบล็อกต่างๆ แต่ละบล็อกเชื่อมต่อกับบล็อกก่อนหน้าจึงกลายเป็นห่วงโซ่ เครือข่ายทำงานบนสัญญาอัจฉริยะที่เขียนด้วยภาษาโปรแกรม Solidity นี่คือชุดคำสั่งพิเศษที่โหนดทั้งหมดดำเนินการ ช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ที่เป็นเจ้าของสกุลเงินคริปโตที่ใช้ Ethereum ทั้งหมด สัญญาอัจฉริยะสามารถดำเนินการได้หลายครั้ง บนเครือข่ายของ Ethereum (ซึ่งต่างกับ Bitcoin blockchain)

นอกจากนี้ยังสามารถเรียก Ethereum ว่าเป็นชุดเครื่องมือสำหรับสร้างและใช้งานแอพพลิเคชั่นแบบไม่รวมศูนย์ (dApps) ได้อีกด้วย DApps เป็นแอปพลิเคชันชุดเดียวกันกับแอปพลิเคชันอื่นๆ ที่สร้างบน Windows, iOS และอื่นๆ ความแตกต่างคือพวกมันทำงานบนบล็อกเชนในลักษณะที่ไม่รวมศูนย์และ ขับเคลื่อน โดย สกุลเงินคริปโต ซึ่งแตกต่างจากแอปพลิเคชันทั่วไปที่ควบคุมโดยทีมพัฒนาที่รวมศูนย์ dApps ถูกควบคุมโดยสัญญาอัจฉริยะ

แอปพลิเคชันแบบไม่รวมศูนย์สามารถเป็นได้ทุกประเภทและทุกวัตถุประสงค์ ตั้งแต่บริการทางการเงินไปจนถึงเครื่องมือการพัฒนาและแม้กระทั่งเกมต่างๆ แอปแบบไม่รวมศูนย์ส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่สกุลเงินคริปโต และวิธีการใช้งานของพวกมัน

วิธีซื้อ Ethereum

กระบวนการทั้งหมดนั้นค่อนข้างเรียบง่าย มาดูตัวอย่างการซื้อ ETH บน Bybit กันดีกว่า

1. ลงทะเบียน/เข้าสู่ระบบ

เราต้องเข้าสู่ส่วนการเทรดก่อน ในการทำเช่นนี้ คุณควรสร้างบัญชีใหม่บน Bybit

2. ฝากเงิน

ขั้นตอนต่อไปคือการเตรียมข้อตกลงของเรา คุณสามารถเติมเงินด้วยสกุลเงิน fiat (USD, EUR ฯลฯ) หรือสกุลเงินคริปโตได้ (stablecoins, BTC ฯลฯ) นอกจากนี้ คุณสามารถซื้อ ETH ได้โดยตรงด้วยบัตรเครดิตของคุณ

3. ค้าหา ETH

คลิกที่ Trade และค้นหา ETH จากนั้นค้นหาคู่การเทรดที่ต้องการ หากคุณฝาก USDT เข้าบัญชีคุณ ตัวเลือกของคุณคือ ETH/USDT

4. ทำการสั่งซื้อ

คลิกที่ Buy แล้วเลือก Market price หลังจากนั้น ให้กำหนดจำนวน ETH ที่คุณต้องการซื้อหรือจำนวน USDT ที่คุณต้องการแลกเปลี่ยน จากนั้นเลื่อนลงไปและคลิกที่ Buy ETH

5. ตรวจสอบกระเป๋าเงินสปอตของคุณ

Bybit มีกระเป๋าเงินให้หลายประเภท หลังจากซื้อเหรียญ ETH ด้วยวิธีนี้ สินทรัพย์ของคุณจะถูกเก็บไว้ในกระเป๋าเงินสปอตของคุณ

การถอน Ethereum ทำงานอย่างไร ทั้งหมดที่คุณต้องการรู้–How Do Ethereum Withdrawals Work? All You Need To Know

การเปรียบเทียบต่างๆกับ Ethereum

1. Ethereum vs. Bitcoin

Bitcoin สามารถเรียกได้ว่าเป็นบรรพบุรุษของสกุลเงินคริปโตต่างๆ ในขณะที่ Ethereum เป็นเพียง คริปโตที่ได้รับความนิยมและยิ่งใหญ่เป็นอันดับสองในปัจจุบัน ในขณะเดียวกัน Bitcoin เป็นเพียงแค่สกุลเงินคริปโตสกุลเงินหนึ่ง แต่ Ethereum เป็นทั้งแพลตฟอร์มเลยซึ่งที่มีโทเค็นดั้งเดิมคือ Ether สกุลเงิน Bitcoin เป็นที่จัดเก็บมูลค่าและเป็นตัวกลางของการแลกเปลี่ยนเป็นส่วนใหญ่ Ethereum เป็นบล็อกเชนที่ใช้งานทั่วไป สกุลเงินดิจิตอลอื่น ๆ จำนวนมากใช้ Ethereum หรืออนุพันธ์โปรโตคอลของ Ethereum เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ของ Ethereum ให้การประมวลผลธุรกรรมที่เร็วกว่าบล็อกเชนของ Bitcoin

การใช้พลังงานของ Bitcoin สูงถึง 110 เทราวัตต์-ชั่วโมงต่อปี ในขณะที่ตัวเลขของ Ethereum อยู่ที่ 0.03 กิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อปี ตัวประมวลผลขั้นสูงให้บริการอัลกอริธึมที่ซับซ้อนในบล็อกเชนของ Bitcoin Ethereum 2.0 ต้องการไฟฟ้าน้อยลงมาก ทำให้ Ethereum เป็นสกุลเงินคริปโตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

นอกจากนี้ Ethereum ยังใช้โมเดล Proof of Stake (PoS) ที่กระจายรางวัลตามขนาดของหุ้นที่ผู้ตรวจสอบความถูกต้องเป็นเจ้าของ Bitcoin นั้นใช้โมเดล Proof of Work (PoW) และต้องใช้ไฟฟ้าจำนวนมากเพื่อรักษากำลังการประมวลผล

ใช่ ทุกอย่างเริ่มต้นด้วย Bitcoin แต่มันต้องพิสูจน์สถานะของตัวมันเองอย่างต่อเนื่องว่าเป็นสกุลเงินคริปโตที่มีประสิทธิภาพและมีค่ามากที่สุดเพื่อรักษาความเป็นผู้นำไว้ ในขณะที่เขียนนี้ มูลค่าตลาดของ Bitcoin สูงถึง 3 แสนล้านดอลลาร์ ในขณะที่มูลค่าตลาดของ Ethereum นั้นมากกว่าครึ่งหนึ่งของตัวเลขนั้น นั่นก็คือ 1.5 แสนล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ในปี พ.ศ. 2564 มูลค่าตลาดของ Ethereum เติบโตเร็วกว่า Bitcoin

2. Ethereum vs. Ripple

บล็อกเชนของ Ripple ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2555 สามปีก่อนการถือกำเนิดของ Ethereum มันได้รับการพัฒนาและเปิดตัวโดยบริษัทเอกชนชื่อ Ripple Labs

เป้าหมายของผู้ก่อตั้งคือการสร้างมาตราการบล็อกเชนที่สามารถท้าทายระบบการชำระเงินข้ามพรมแดนที่ธนาคารใช้ในการโอนเงินไปต่างประเทศได้ ที่น่าสนใจคือ แม้ว่า Ripple Labs จะมุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมการธนาคารเป็นหลัก แต่ทุกคนก็สามารถใช้บล็อกเชนของ Ripple เพื่อส่งและรับเงินได้ ทุกคนสามารถเริ่มเทรดเหรียญของพวกเขา (XRP) ได้เนื่องจาก Ripple มีให้ใช้งานได้อย่างอิสระในตลาด

เมื่อพูดถึงประสิทธิภาพของบล็อกเชนของ Ripple นี่คือจุดที่ความแตกต่างหลักเข้ามามีบทบาท เมื่อผู้ใช้ส่งเหรียญ XRP ไปยังบุคคลอื่น จะใช้เวลาเฉลี่ยเพียง 4 วินาทีในการตรวจสอบธุรกรรม ในขณะที่ระยะเวลา 16 วินาทีของ Ethereum เป็นตัวเลขที่ดี แต่ Ripple ทำได้เร็วกว่าถึง 4 เท่า

ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมเมื่อใช้บล็อกเชนของ Ripple ก็ต่ำกว่าเช่นกัน มันมีค่าธรรมเนียมมาตรฐานอยู่ที่ 0.00001 XRP ต่อการทำธุรกรรม แม้ว่า XRP จะมีมูลค่าสูงสุดในช่วงต้นปี พ.ศ. 2561 แต่ค่าธรรมเนียมก็อยู่ที่ $0.0000329 นี่เป็นค่าธรรมเนียมที่เล็กน้อยมากจนเหมือนกับว่าการส่งเงินด้วย Ripple นั้นฟรี

หนึ่งในแง่มุมที่สำคัญที่สุดในการเลือกเหรียญ XRP หรือ ETH คือเรื่องของความสามารถในการปรับขนาด Ethereum สามารถประมวลผลได้ประมาณ 15 รายการต่อวินาที Ripple สามารถให้บริการได้ประมาณ 1,500 ซึ่งมากกว่า Ethereum เป็นอย่างมาก

3. Ethereum vs. Ethereum Classic

ก่อนการถือกำเนิดของ Ethereum Classic มีเพียงสกุลเงินคริปโต Ethereum เท่านั้น โครงการดำเนินไปได้ด้วยดีก่อนที่จะถูกแฮ็กเกอร์โจมตี ซึ่งทำให้สูญเสียเงินไป 50 ล้านดอลลาร์

หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้สร้างแพลตฟอร์มก็เริ่มมองหา จุดอ่อน ของโครงการเพื่อคิดว่าจะแก้ไขอย่างไร ทางออกที่ดีที่สุดคือการแยกออกจากกัน บล็อกเชนของ Ethereum ในตอนนั้นได้หยุดลงอย่างสมบูรณ์ ในพื้นที่นี้สกุลเงินคริปโตใหม่ถูกสร้างขึ้นมาแทนที่ มันถูกตั้งชื่อว่า Ethereum เวอร์ชันเก่าที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Ethereum Classic

นักพัฒนา Ethereum Classic คัดค้านการเปลี่ยนแปลงใดๆ ต่อระบบ และผู้สร้าง Ethereum มองถึงสิ่งเหล่านี้ในแง่บวกหากทีมงานส่วนใหญ่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

ระดับความไว้วางใจใน ETH นั้นสูงกว่าใน ETC นอกจากนี้ มีเพียงประมาณ 10% ของลูกค้าของโครงการเท่านั้นที่ยังคงใช้เหรียญเก่าอยู่ ส่วนที่เหลือได้เริ่มใช้ Ethereum นอกจากนี้ ETC ยังคงทำงานบน PoW อีกด้วย ในขณะเดียวกัน ETH ได้เปลี่ยนมาใช้ PoS มานานแล้ว

4. Ethereum vs. Cardano

Cardano เป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่สร้างขึ้นโดย Input Output Hong Kong และ ชาร์ลส์ ฮอสกินสัน ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum

ในแง่ของการปรับขนาด Ethereum ยังตามหลัง Cardano อยู่ ปัจจุบันบล็อกเชนของ Ethereum สามารถประมวลผลได้ประมาณ 15 รายการต่อวินาที เพื่อการเปรียบเทียบ Cardano สามารถรองรับธุรกรรมได้ประมาณ 257 รายการต่อวินาที

นอกจากนี้ Cardano ยังแนะนำกลไกฉันทามติใหม่ที่รู้จักกันในชื่อ Ouroboros อีกด้วย Ouroboros เป็นโปรโตคอลเชนแบบ PoS ที่ช่วยให้ทำธุรกรรมได้รวดเร็วราวกับสายฟ้า ระบบจะใช้ผู้นำที่ถูกเลือกมาแบบสุ่มๆ เพื่ออนุมัติบล็อกต่างๆ เพื่อทำงานนี้ให้สำเร็จ เครือข่ายจะเลือกโหนดเหล่านี้ตั้งแต่ต้นของแต่ละช่วง

ตารางเปรียบเทียบของสกุลเงินคริปโต 4 สกุลเงิน

Items	Ethereum	Bitcoin	Ripple	Ethereum Classic	Cardano
แนวคิดทั่วไป	เครือข่ายเพื่อการเสนอและอนุมัติของสัญญาต่างๆ ภายในบล็อกเชน	ระบบการโอนเงินโดยไม่ใช้เงินสด	ระบบการชำระเงินยุคใหม่สำหรับการธนาคาร	ยังคงหลักการของบล็อกเชนของ Ethereum แบบเก่า	แพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่รวดเร็ว ไม่รวมศูนย์ ปลอดภัยและปรับขนาดได้
วันที่เผยแพร่	2015	2009	2012	2015	2017
TPS	15	7	1500	1	270
ระบบฉันทามติ	PoS	PoW	Ripple Protocol consensus algorithm (RPCA)	PoW	Ouroboros
อุปทานสูงสุด	ไม่มีที่สิ้นสุด	21,000,000	100,000,000,000	210,700,000	45,000,000,000

Ethereum ดีไหม

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนคิดว่า Ethereum เป็นตัวเลือกการลงทุนที่ดีกว่า Bitcoin เสียอีก Ethereum สูญเสีย 84% ของมูลค่าของตัวมันหลังจากที่สิ่งที่เรียกว่า ภาวะฟองสบู่คริปโต ได้แตกในปี 2560 แต่มันก็ยังมีตัวตนอยู่ Ethereum ได้รับความแข็งแกร่งและโมเมนตัม และกลายเป็นสกุลเงินที่แข็งแรงและน่าดึงดูดมากขึ้น เช่นเดียวกับอินเทอร์เน็ตที่ไม่หายไปไหนหลังจาก ภาวะฟองสบู่อินเทอร์เน็ต ในยุค 90

โครงการใหม่ๆได้ถูกสร้างขึ้นบน Ethereum ทุกๆวัน: ไมโครกริด, dApps, NFT, การจำนอง, เวชระเบียน และอื่นๆ ETH ไม่ได้เสียตำแหน่งไปและมีระดับการเทรดที่สูงกว่า 1,000 ดอลลาร์ เป็นเวลานาน ถึงแม้ว่าจะอยู่ในตลาดขาลงในปี พ.ศ. 2565

Ethereum ปลอดภัย ไหม

Ethereum เป็นหนึ่งในสกุลเงินคริปโตที่ปลอดภัยที่สุดในโลก นักพัฒนาทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อการอัปเกรด และ The Merge (การเปลี่ยนมาใช้ PoS) เป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์

การเปลี่ยนไปใช้ การ stake จะทำให้ Ethereum เข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับผู้ใช้ เนื่องจากผู้ที่ให้ความปลอดภัยของบล็อกเชนนั้นไม่ใช่นักขุด แต่เป็นผู้ใช้ที่ฝากและบล็อกแชร์ของตนเองของเหรียญ คนเหล่านั้นถูกเรียกว่าผู้ตรวจสอบความถูกต้อง ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่จะพัฒนาการป้องกันด้วยต้นทุนที่ต่ำลง และเพิ่มความสามารถในการปรับขนาดของแพลตฟอร์มบล็อกเชน ในขณะเดียวกัน จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงสำหรับผู้ใช้สกุลเงินคริปโตทั่วไป

นอกจากนี้ Ethereum ยังปฏิบัติตามกฎทั้งหมดที่กำหนดโดย SEC (สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา)อีกด้วย ดังนั้นจึงแทบไม่มีโอกาสที่โครงการนี้จะถูกแบนโดยรัฐบาลสหรัฐฯเลย ซึ่งก็เป็นไฟเขียวเช่นกัน

Coin-Labs.com ให้ข้อมูลที่เป็นจริงเกี่ยวกับ Ethereum เท่านั้น
ดังนั้น เราจึงไม่มีความรับผิดชอบใด ๆ กับการตัดสินใจลงทุนใน Ethereum และการสูญเสียเงินทุนที่เกิดขึ้น

Ethereum คืออะไร

ต่อไปนี้คือปัจจัยที่นักลงทุนควรพิจารณาก่อนที่จะลงทุนใน Ethereum.

ฟีเจอร์ของสกุลเงินคริปโต	Ethereum ()
ผู้เผยแพร่หรือนักพัฒนา
สำนักงานใหญ่ (หมายเลขทะเบียน)
สัญลักษณ์
แพลตฟอร์ม
วันที่เผยแพร่ (ลงทะเบียน CMC)	2024-10-02
อุปทานสูงสุด	958,691,258,152,859

คะแนนความน่าไว้วางใจของ Ethereum ใน 2024

ต่อไปนี้คือดัชนีวัดความน่าไว้วางใจในการลงทุนของ Ethereum วัดโดย Coin-Labs.com

รายการประเมินคะแนนความน่าไว้วางใจในการลงทุน	คะแนนและสถานะปัจจุบัน
อัตรากระตุ้นการขายของบริษัท	/ 10.0 CAR
อัตราการสื่อสาร	/ 10.0 CR
อัตราความโปร่งใสของเทคโนโลยี	/ 10.0 TTR
อัตราการมีส่วนร่วมในการพัฒนา	/ 10.0 DPR
สถานะการลิสต์ใน 10 อันดับแพลตฟอร์มระดับโลก	ลิสต์อยู่ใน 0 แพลตฟอร์ม
จำนวนคู่เทรดจากทั่วโลก	1 คู่
มูลค่าตามราคาตลาดของสกุลเงินคริปโต	6,683,329 USD (อันดับที่ #1295)

ตารางด้านบนแสดงผลของการประเมินความเหมาะสมในการลงทุนสำหรับ Ethereum.
สามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับรายการการประเมินได้ที่นี่ ที่นี่.

Ethereum ราคา

ต่อไปนี้คือราคาและปริมาณการเทรดของ Ethereum. (ข้อมูลของ 2024-10-03 00:15:00)

รายการราคา	ราคาและปริมาณการเทรดของ Ethereum
Ethereum ราคา	0.000 USD
การเปลี่ยนแปลงของราคา 24 ชั่วโมง	-5.48%
การเปลี่ยนแปลงของราคา 7 วัน	-4.99%
ปริมาณการเทรด 24 ชั่วโมง	11 USD
การเปลี่ยนแปลงของปริมาณการเทรด 24 ชั่วโมง	-82.47%

ข้อมูลเมตาดาต้าของสกุลเงินคริปโต

คุณสามารถตรวจสอบสถานะการพัฒนาและข้อมูลโซเชียลมีเดียของ Ethereum ได้ ลิงก์ในตารางด้านล่าง

แหล่งข้อมูลเมตาดาต้า	URL
🌎 เว็บไซต์หลัก
📖 ไวท์เปเปอร์
🛰️ โค้ดต้นฉบับ (GitHub)
🐦 Twitter
🤖 Reddit
🎺 กระดานข้อความ

ซื้อ Ethereum ได้ที่ไหน

ต่อไปนี้คือ 10 อันดับแพลตฟอร์มสำหรับเทรดคริปโตระดับโลก ที่ๆนักเทรดสามารถซื้อ Ethereum ใน 2024.

10 อันดับแพลตฟอร์ม	สถานะการลิสต์	URL ของหน้า
Binance	ไม่ได้ลิสต์ไว้
Coinbase	ไม่ได้ลิสต์ไว้
Kraken	ไม่ได้ลิสต์ไว้
KuCoin	ไม่ได้ลิสต์ไว้
Bitfinex	ไม่ได้ลิสต์ไว้
OKX	ไม่ได้ลิสต์ไว้
Huobi	ไม่ได้ลิสต์ไว้
Bitstamp	ไม่ได้ลิสต์ไว้
Bybit	ไม่ได้ลิสต์ไว้
Gate.io	ไม่ได้ลิสต์ไว้

คำถามที่พบบ่อย